ประวัติ adidas
อาดิดาส (Adidas) เป็นยี่ห้อของสิ้นค้าที่เกี่ยวข้องกับกีฬา
ต้นกำเนิดที่แท้จริงของแบรนด์เกิดขึ้นที่ประเทศเยอรมนี
โดยผู้ที่คิดค้นและเริ่มผลิตก็คือ อดอล์ฟ หรือ แอดดิ ดาสเลอร์ (Adolf, Adi
Dassler)
โดยเขาได้เริ่มผลิตรองเท้ากีฬาคู่แรกของเขาเองในห้องซักผ้าภายในบ้าน ในปี
ค.ศ.1920 หลังจากที่พี่ชาย รูดิ หรือ รูดอล์ฟ ดาสเลอร์ (Adolf, Adi
Dassler) กลับมาจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
สองพี่น้องก็ช่วยกันผลิตรองเท้ากีฬาที่มีชื่อแบรนด์ว่า “Dassler”
ซึ่งก็มาจากนามสกุลของสองพี่น้องนั่นเอง
และได้เปิดกิจการอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ.1924
โดยชื่อที่ก่อตั้งนั้นเป็นชื่อ Gebrüder Dassler Schuhfabrik (Dassler
Brothers Shoe Factory)
รองเท้าดาสเลอร์เป็นที่รู้จักของผู้คนอย่างรวดเร็วหลังจากที่ Adi
ขอให้นักวิ่งชาวอเมริกันใส่รองเท้าตะปูของดาสเลอร์ลงแข่งวิ่งระยะสั้นในกีฬาโอลิมปิคเมื่อปี
ค.ศ. 1936 และเจสซี่ โอเวนส์ ก็ได้เหรียญทองถึง 4
เหรียญในการแข่งขันในครั้งนั้น จนทำให้รองเท้า Dassler มียอดขายมากกว่า
สองแสนคู่ต่อปี

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งสองพี่น้องก็มีเรื่องหมางใจกัน
กิจการของพวกเขาถูกแทรกแซงโดยทหาร และถูกสั่งให้ผลิตรองเท้าให้กับทหาร รูดิ
พี่ชาย ถูกเรียกกลับไปประจำการที่กองทัพ เมื่อสงครามยุติลงในปี ค.ศ. 1948
ความสัมพันธ์ของสองพี่น้องก็ถึงจุดแตกหัก
รูดิแยกตัวออกไปตั้งโรงงานผลตรองเท้าและสร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมาชื่อ « Ruda »
และเปลี่ยนมาเป็น « Puma » ในภายหลัง ส่วนแอดดิก็เปลี่ยนชื่อแบรนด์จาก
Dassler ให้กลายมาเป็น « Adidas » ซึ่งมาจากชื่อและนามสกุลของเขานั่นเอง
ทั้งสองแบรนด์ Puma และ Adidas แข่งขันกันอย่างดุเดือดยาวนานนับ 60 ปี
จนกระทั่งปี 2009
สงครามระหว่างทั้งสองแบรนด์ก็สิ้นสุดลงเมื่อทั้งคู่หันมาจับมือกันในการแข่งขันกีฬาขององค์กร
One Day Peace
ถ้ามองย้อนกับไปเมื่อปี ค.ศ.1949 ซึ่งถือว่าเป็นยุคแรกๆ
ที่มีการผลิตรองเท้าของอดิดาส จะสังเกตุเห็นว่ารองเท้าของแอดดินั้น
มีลักษณะเด่นไม่เหมือนใคร
เนื่องจากพื้นของรองเท้านั้นมีลักษณะเป็นเดือยแหลมยื่นออกมาคล้ายๆ กับตะปู
จนกลายเป็นจุดเด่นของรองเท้าอาดิดาสเลยก็ว่าได้
ในปี ค.ศ. 1972 นักกีฬาว่ายน้ำผู้กวาดเหรียญทองในกีฬาโอลิมปิค Mark
Spitz ได้สร้างปรากฏการณ์ที่ทำให้ผู้คนยิ่งจดจำรองเท้าของอดิดาสได้มากขึ้น
โดยในวันที่ประกาศรับเหรียญ
ทางบริษัทอดิดาสได้ขอให้เขาสวมใส่รองเท้าขึ้นรับเหรียญ
แต่เขากลับปฏิเสธและทำให้ในสิ่งที่หลายคนคาดไม่ถึงก็คือเขานำรองอดิดาสขึ้นมาชูไว้
โดยเขาบอกว่าหากเขาใส่รองผู้คนจะมองเห็นรองเท้าไม่ชัดเจน
แต่ถ้าเขาถือและชูมันขึ้นมา
กล้องถ่ายรูปก็จะสามารถจับภาพรองเท้าอดิดาสได้ชัดเจนอย่างแน่นอน
เหตุการณ์ดังกล่าวก็ยิ่งทำให้อดิดาสเป็นแบรนด์ที่มีผู้คนสนใจมากขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมาจนกระทั่งทุกวันนี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น